🟡เรียนพี่เพื่อนน้อง สมาชิก สอ.ครูอุตรดิตถ์ที่เคารพรักทุกท่าน
♦️ขอรายงานข้อมูลการดำเนินงานในรอบปีให้สมาชิกทราบเพื่อความมั่นใจนะครับ
(1). ทุนดำเนินการของสหกรณ์ เป็นต้นทุนที่ใช้ดำเนินการจริงของสหกรณ์ ประกอบด้วย
♦️หุ้น 5,352 ล้าน
♦️ทุนสำรอง600 ล้าน
♦️ทุนสะสม 24 ล้าน
รวมทั้งสิ้น 5,978 ล้าน
และหุ้นนี้แหละครับที่ใช้ในการคำนวณจ่าย “ เงินปันผล” หุ้นมากได้มาก หุ้นน้อยได้น้อย เช่น ถ้าปันผล 5% มีหุ้น 70 ล้าน ได้รับ 3.5 ล้านบาทถ้ามีหุ้น 1 ล้าน จ่าย 50,000 บาท ถ้ามีหุ้น 1 แสน จ่าย 5,000 บาท ความแตกต่างของหุ้นมากเกินไป มากสุด 70 ล้าน คนมีหุ้นมากสุด 100 คนแรก มีหุ้นรวม1,000 ล้าน คิดเป็น 1 ใน 5 ของสมาชิก 8,215 คน (คนมีหุ้นมากจะแย่งส่วนแบ่งของคนหุ้นน้อย ) ขณะนี้ สหกรณ์จำเป็นต้องกำหนดเพดานหุ้น ให้มีไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อคน และเน้น สะสมหุ้นรายเดือน ถือเป็นการออมทรัพย์จริงๆตามหลักการ
(2). สหกรณ์ทำธุรกิจเฉพาะคือให้กู้เฉพาะสมาชิกสหกรณ์เท่านั้น เมื่อความต้องการมีมาก นำทุนของสหกรณ์มาให้กู้ไม่เพียงพอ ♦️จึงระดมเงินฝากจากสมาชิกสหกรณ์เท่านั้น จำนวน 6,157 ล้าน ด้วยดอกเบี้ย 2.25% และ ดอกเบี้ย 2.75%,3.05% แต่ยังไม่เพียงพอจึง กู้จาก ธกส. อีก 1,000 ล้านบาท ด้วย ดอกเบี้ย 2.95% ในรูปแบบตั๋วสัญญาใช้เงิน
(3). เงินให้กู้ยืม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และสนองความต้องการของสมาชิกสหกรณ์ ที่ต้องการ หารายได้/ใช้จ่ายในครอบครัว/สร้างความมั่นคง/แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ จึงให้สินเชื่อตามความประสงค์ของสมาชิกด้วยดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน เช่น เงินกู้ปกติ ดอกเบี้ย5.5% ดอกเบี้ยแก้ไขปัญหาเป็นแนวสวัสดิการ จะมีดอกเบี้ยลดต่ำกว่า เช่น 5% 4.5% 4.25% เป็นต้น
รวมเงินให้กู้ยืมทั้งสิ้น 13,371 ล้านบาท
(4). เงินหมุนเวียนแต่ละเดือนที่เรียกว่า “ สภาพคล่อง ” สหกรณ์มีเงินสำรองไว้จำนวน 224 ล้านบาท ในขณะที่แต่ละเดือนจะได้รับชำระหนี้จำนวน เฉลี่ย 115 ล้านบาท ♦️ในรอบปี สหกรณ์จึงมีเงินไว้หมุนเวียน ฝาก ถอน ให้กู้ ใช้จ่าย โดยเก็บเป็นเงินสดไว้ไม่เกิน 2 ล้าน นอกนั้นฝากไว้กับธนาคาร ทั้งนี้ ฝ่ายจัดการและกรรมการจะคำนวณความเพียงพอขอเงินที่หมุนเวียนในแต่ละวัน ให้เพียงพอตั้งแต่ เปิดทำการ จนถึง สิ้นวัน ในแต่ละวันครับ ♦️สหกรณ์จึงบริการสมาชิกไม่ขาดตอน ราบรื่น เรียบร้อย และ มีเงินเหลือสำรองไว้เผื่อฉุกเฉินเพียงพอไม่มากเกินไม่น้อยเกิน
🟠กรรมการในอดีตอาจตั้งใจ รึไม่ตั้งใจในการไม่รักษาผลประโยชน์ของสมาชิกในภาพรวม ปล่อยให้เกิดระบบทุนนิยมในระบบปันผลเกิดช่องว่างของหุ้นและปัญหาความไม่เท่าเทียมของหุ้นและปันผลจึงเกิดขึ้น ไม่เป็นไรนะครับ บัดนี้อดีตประธานชวลิต คำเพ็ง และผมธำรงค์ น่วมศิริพร้อมคณะได้พยายามแก้ไขแล้วก่อนจะขยายความไม่เท่าเทียมมากกว่านี้ครับ
🔵ดร.ธำรงค์ น่วมศิริ ประธานและกรรมการชุดที่ 65 รายงาน🙏🙏🙏สหกรณ์มั่นคง สมาชิกเข้มแข็งและมีความสุข💜💚🧡💛♥️🩷